No.4 0 Posted January 19, 2018 Seventeen Thailand เป็นที่รู้กันของบรรดาคนรอบข้างว่าอาการแบบนี้แหละ ประจำเดือนมาชัวร์!สาวๆ หลายคนต้องประสบปัญหามากมายทั้งช่วงก่อนและระหว่างมีประจำเดือน ช่างเป็นเวลาที่สาหัส ไม่ว่าจะด้านอารมณ์หรือกาย โดยเฉพาะช่วงก่อนมีประจำเดือน อะไรก็ดูน่าหงุดหงิดไปหมด อาการนี้เรียกว่า PMS (Pre-menstrual syndrome) เกิดขึ้นประมาณ 7-10 วันก่อนมีประจำเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนเกิดการเปลี่ยนแปลงนั่นเอง เห้อ… เป็นอย่างนี้จะให้ร่าเริงได้ไงกัน? บวกกับช่วงนี้มักมีอาการอยากทานนู่นทานนี่อยู่บ่อยๆ ใช่ไหม?เข้าทางเลย มาดูกันว่าอาหารอะไรช่วยคุณได้บ้าง! 1. กล้วยหอม กล้วยหอมอุดมไปด้วยโพแทสเซียม และแมกนีเซียม มีส่วนช่วยรักษาสภาวะน้ำในร่างกายให้อยู่ในระดับปกติและบรรเทาอาการท้องอืด รวมถึงกล้วยยังมีวิตามินบี 6 ที่ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนด้วยนะ นอกจากนี้แล้ว กล้วยหอมยังเป็นตัวช่วยที่ดีในเรื่องการนอนหลับและไม่หงุดหงิดฉุนเฉียว เพราะกล้วยมีทริปโตเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายนำไปใช้ร่วมกับ วิตามินบี 6 วิตามินบี 3 และแมกนีเซียม ในการสร้าง เมลาโทนิน และเซโรโทนิน หรือ "ฮอร์โมนแห่งความสุข" ดังนั้นเมื่อรับประทานกล้วย ก็จะช่วยให้อารมณ์ดี นอนหลับง่ายและสบายยิ่งขึ้น หากนอนไม่พอจะทำให้อาการปวดยิ่งแย่ขึ้นด้วยนะ ทั้งนี้ควรรับประทาน 1-2 ลูกต่อวัน 2. สัปปะรด การรับประทานสัปปะรดเป็นประจำช่วยแก้ปัญหาปวดประจำเดือนได้ แถมยังมีส่วนเพิ่มการสร้างเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว ดังนั้นการไหลเวียนของเลือดจึงมากขึ้น โดยสัปปะรดมีเอนไซม์ โบรมีเลนและแมงกานีสช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทำให้อาการปวดท้องประจำเดือนบรรเทาลง แปลว่า อาการเกร็งท้องน้อยที่เกิดจากมดลูกบีบตัวก็จะไม่มารบกวนสาว ๆ นั่นเอง นอกจากนี้เจ้าเอนไซม์โบรมีเลนยังช่วยขับเลือดเสียออกจากมดลูกได้เป็นอย่างดี ทำให้ประจำเดือนมาปกติ 3. มะละกอ สาว ๆ คนไหนชอบกินมะละกอถือว่าเข้าทางเลย เพราะเจ้ามะละกอช่วยแก้อาการปวดท้องประจำเดือนได้ดี พร้อมกับอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย อย่างแคโรทีน เหล็ก แคลเซียม วิตามินเอ และวิตามินซี ที่ช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ แค่ทานมะละกอเป็นประจำทุกวันก่อนประจำเดือนจะมาเยือน เท่านี้ก็ไม่ต้องทรมานกับอาการปวดท้องแล้ว 4. ชา (ชนิดปราศจากคาเฟอีน) สาเหตุที่ควรเลี่ยงเครื่องดื่มคาเฟอีน หรือแม้กระทั่งน้ำอัดลมนั้นเป็นเพราะว่า จะเกิดการกระตุ้นหดรัดตัวของมดลูกทำให้มีอาการปวดท้องทั้งก่อนและระหว่างมีประจำเดือนเพิ่มขึ้น ที่สำคัญยังเพิ่มอารมณ์เศร้าและหงุดหงิดอีกด้วย ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนมาทานชา ไม่ว่าจะชาเปปเปอร์มิ้นท์ หรือ ชาคาโมมายล์ ล้วนช่วยบรรเทากล้ามเนื้อหดเกร็ง และอาการปวดประจำเดือน โดยชาเปปเปอร์มินท์นั้นมีรสเผ็ดร้อน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ดี พร้อมทั้งช่วยให้ท้องไม่อืด ส่วนชาคาโมมายล์มีไกลซีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยลดอาการกล้ามเนื้อหดเกร็ง ทำให้มดลูกคลายตัวนั่นเอง สมุนไพรชนิดนี้ยังเป็นเลิศช่วยให้สบายท้อง บรรเทาอาการนอนไม่ค่อยหลับอีกด้วย 5. น้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลือง ทั้งน้ำเต้าหู้และนมถั่วเหลือง มีสารไฟโตเอสโตรเจน ที่ชื่อว่า เจนนิสทีน มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งช่วยลดอาการปวดประจำเดือน หรืออาการต่างๆ ที่สาวๆ ต้องประสบระหว่างมีประจำเดือนได้ โดยดื่มเป็นประจำก่อน 1 สัปดาห์ที่ประจำเดือนมา เพื่อให้เกิดผลดีที่สุด นอกจากนี้หากใครไม่ชอบดื่มน้ำเต้าหู้ อาจจะเปลี่ยนไปดื่มน้ำเต้าหู้แบบไม่ผสมน้ำตาลแล้วใส่น้ำผึ้ง หรือโยเกิร์ตนมถั่วเหลืองแทน รวมถึงเลือกดื่มนมถั่วเหลืองชนิดต่างๆ หรือซุปเต้าเจี้ยวแทนได้เช่นกัน 6. ดาร์กช็อกโกแลต ถึงจะไม่หวานเท่าไอศกรีมหรือของหวานอื่น ๆ แต่ก็ช่วยเอาใจคนรักช็อกโกแลตได้ แนะนำว่าต้องเป็นแบบดาร์กเท่านั้น เพราะมีส่วนผสมของโกโก้ ซึ่งให้ประโยชน์มากมาย ช็อกโกแลตช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินมากขึ้น ทีนี้อารมณ์บูดบึ้งก็จะหมดไป แถมมีสารทริพโทเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนสำคัญ ทำหน้าที่ควบคุมเซโรโทนิน ช่วยให้ผ่อนคลายความวิตกกังวลได้ หากรู้สึกเหนื่อยล้า เจ้าดาร์กช็อกโกแลตก็สามารถลดระดับฮอร์โมนที่สร้างความเหนื่อยล้าในร่างกายเราได้ เพราะเป็นแหล่งแมกนีเซียมชั้นดี แต่อย่าเพลิน เผลอทานมากไป จะไม่เป็นผลดีนะ ควรดูว่ามีกี่หน่วยบริโภคและปฏิบัติตามนั้น เท่านี้ก็ช่วยได้มากเลย 7. เนื้อปลา เมื่อต้องหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ เช่น หมู วัว แล้ว สิ่งที่ควรเลือกทาน ก็คือ ปลา นี่เอง มีส่วนช่วยลดอาการท้องอืดหรือท้องเสียระหว่างมีประจำเดือน โดยเฉพาะปลาทะเลน้ำลึก ที่ไม่ว่าจะเป็นปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ล้วนอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ดี ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้ อีกทั้งส่งผลดีต่อหลอดเลือดและหัวใจอีกด้วย โดยโอเมก้า 3 ที่พบในเนื้อปลาน้ำเย็นมีประสิทธิภาพมากที่สุด ที่สำคัญในโอเมก้า 3 มีกรด EPA และ DHA ช่วยลดอาการปวดเกร็งภายในช่องท้องได้ดีเลยทีเดียว และยังมีประโยชน์อีกคือลดอาการบวมน้ำในร่างกายของเราอีกด้วย ฉะนั้นก่อนมีประจำเดือนควรงดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูงแล้วมาเน้นทานเนื้อปลาดีกว่า 8. น้ำเปล่า ในช่วงก่อนและหลังมีประจำเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะทำให้ตัวบวมขึ้น โดยน้ำเปล่ามีประโยชน์อย่างมาก ทำหน้าที่ขับโซเดียมหรือเกลือที่เป็นมารร้ายทำให้ตัวบวมออกมา เราจึงควรดื่มน้ำให้ได้ 2 - 3 ลิตร ต่อวัน ควรเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์มีฤทธิ์เพิ่มการไหลเวียนเลือดจะยิ่งทำให้มีอาการบวมน้ำเสริมกับฮอร์โมนเอสโตรเจนก็จะยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ทางที่ดี หมั่นดื่มน้ำมากๆ เป็นประจำอยู่ทุกวันจะให้ผลลัพธ์เยอะทีเดียวเพียงเท่านี้ อาการที่น่ารำคาญก็หายเป็นปลิดทิ้ง ทั้งหาทานง่ายและสะดวกอีกด้วย ให้คุณประโยชน์มากมายขนาดนี้ ช้าอยู่ใย!รีบหามาทานเล้ย เพื่อชีวิตประจำวันที่ร่าเริงและสุขสบาย ไร้มารผจญติดตาม seventeen Thailand ได้ที่นี่ Website : http://www.seventeenthailand.com/ Instagram : https://www.instagram.com/seventeenthailand/ Facebook : https://www.facebook.com/SEVENTEENthailand Youtube : http://www.youtube.com/user/seventeenthailandTV Twitter : https://twitter.com/Seventeenthai ข่าวต้นฉบับ ที่มา ไลน์ทูเดย์ Share this post Link to post Share on other sites